พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นายกรัฐมนตรีของไทยคนที่ 16 ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี 3 สมัย ระหว่างปี พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2531 และเป็นนายกรัฐมนตรีตามคำเชิญของรัฐสภาที่ครองอำนาจยาวนานที่สุด ทั้งนี้เพราะกฎหมายไทยในสมัยนั้นไม่ได้กำหนดให้รัฐสภาต้องเลือกนายกรัฐมนตรี จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บุคลิกส่วนตัวพลเอกเปรมเป็นคนพูดน้อย ในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย
หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2531 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พลเอกเปรม เป็นองคมนตรี ในวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2531 จากนั้นในวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2531 ได้รับโปรดเกล้าฯ ยกย่องให้เป็นรัฐบุรุษ และในวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2541 มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ ให้เป็นประธานองคมนตรี
พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เกิดที่ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา เป็นบุตรชายคนรองสุดท้อง จากจำนวน 8 คน ของรองอำมาตย์โทหลวงวินิจ ทัณฑกรรม ต้นตระกูลติณสูลานนท์ กับนางวินิจ ทัณฑกรรม (ออด ติณสูลานนท์)
สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ในหมายเลขประจำตัว 167 และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. 2480 จากนั้นเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนเทคนิคทหารบก รุ่นที่ 5 สังกัดเหล่าทหารม้า พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เป็นบุคคลที่ทำงานเป็นแบบอย่างที่ดี เป็นสัญลักษณ์ของการทำงาน “เพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” เป็นผู้เสียสละลงมือปฏิบัติจริงเป็นแบบอย่างที่ดีงาม มีผลงานปรากฏชัดเจนบ้านเกิดแผ่นดินมาตุภูมิของป๋าเปรม เพื่อสื่อความหมาย 4 ประการ คือ
- หนุนนำคุณธรรม จริยธรรม เพราะป๋าเปรมเป็นผู้ทรงคุณธรรม จริยธรรม และเป็นแบบอย่างที่ดี
- หนุนนำค้ำจุนชาติ ป๋าเปรมเป็นผู้ที่ดำเนินตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในเรื่องรู้รักสามัคคี เพื่อให้ชาติบ้านเมืองเข้มแข็ง
- หนุนนำส่งเสริมศาสนา ป๋าเปรมเป็นผู้เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา และเคารพในความเชื่อของพี่น้องทุกศาสนาอย่างมีเกียรติและมั่นคง
- หนุนนำพิทักษ์รักษาราชบัลลังก์ ป๋าเปรมเป็นผู้สนองพระราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นกำลังสำคัญยิ่งต่อภาระกิจในพระองค์ท่าน
รู้จักท่านให้มากกว่านี้ผ่านหอปะวัติ สวนประวัติศาสตร์ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ กดที่นี่
วิดีโอเพิ่มเติม กดที่นี่
.